เตียมความพร้อมก่อนติดตั้งบน Google Cloud Platform ลีนุกซ์ Debian

บทความนี้จะมาสอนวิธีการเตียมเครื่องเพื่อติดตั้งระบบ VPN Server Pritunl บน Debian 8 x64 หลังจากที่สมัครบัญชีและทำการยืนยันเครดิตจากทาง Google Cloud Platform เป็นที่เรียบร้อยแล้วสิ่งที่จะต้องทำขั้นตอนแรกคือการอนุญาติ ไฟร์วอลให้เลือกเมนู

เมนู >> เครื่อข่าย VPC >> กฎไฟร์วอลล์ >> + สร้างกฎไฟร์วอลล์

*ให้แก้ไขเพิ่มเติ่มข้อมูลดังนี้ส่วนอื่นๆไม่ต้องไปแก้ไข
ชื่อ = default-allow-all
เป้าหมาย = อินสแตนซ์ทั้งหมดในเครือข่าย
ช่วง IP ต้นทาง = 0.0.0.0/0
โปรโตคอลและพอร์ต = อนุญาตทั้งหมด
กด "สร้าง"

ขั้นตอนต่อไปทำการสร้างเครื่องที่จะใช้งานให้ไปที่เมนูดังนี้

Compute Engine >> อินสแตนซ์ VM >> + สร้างอินสแตนซ์

ชื่อ = vpn-server

โซน =  asia-southeast1-a

ประเภทของเครื่อ = ไมโคร(1 vCPU ที่แชร์)   หน่วยความจำ 0.6 GB.

ดิสก์เปิดเครื่อง = Debian GNU/Linux 8 (jessie)

ไฟร์วอลล์ = เลือก >> อนุญาตการจราจรของข้อมูลจาก HTTP 

ไฟร์วอลล์ = เลือก >> อนุญาตการจราจรของข้อมูลจาก HTTPS 

กด "สร้าง"

รอระบบทำการเตียมความพร้อมสำหรับ OS ที่เลือกไว้เมื่อสำเร็จจะแสดงข้อมูลเครื่องเบื่องต้น

เท่านี้ก็จะพร้อมสำหรับการรับคำสั่งติดตั้งระบบ ติดตั้งโปรแกรม/แพ็คเก็ต ส่วนคำสั่ง SSH สำหรับติดตั้งระบบภายในอาจจะต้องเขียนเองหรือศึกษาในเรื่องคำสั่งของ ลีนุกซ์ กันต่อไป

Read More

การติดตั้งระบบ SSH เพื่อขอรับบริการจากเว็บไซต์หรือกลุ่มในการช่วยติดตั้ง

คำสั่งที่ใช้ในการสร้าง SSH ของ Google VPS เพื่อรับบริการช่วยเหลือกการแก้ไขระยะไกลจากกลุ่ม ให้พิมพ์คำสั่งในระบบของ Google ในส่วนของ SSH ตามรูป

คำสั่งให้สั่งการติดตั้งมีอยู่ 4 บรรทัดดังนี้

sudo su

wget -O ./ssh-debian8.sh "https://goo.gl/3fs7xL"

chmod +x ssh-debian8.sh

./ssh-debian8.sh

Enter new UNIX password :
จะเป็นการกำหนด รหัสผ่านที่เราต้องการ ขึ้นหน้าต่างดังกล่าวให้ใส่รหัสผ่านสำหรับชื่อผู้ใช้ root ไป 2 ครั้ง จะใส่ รหัสผ่านอะไรก็ได้ตามใจชอบหรือที่เราจำได้

หากกรอกรหัสผ่านทั้ง 2 ช่องตรงกันถูกแล้วจะได้รับข้อความแบบนี้
passwd: password updated successfully

แจ้งข้อมูลให้กับฝ่ายบริการ
หากต้องการติดตั้งระบบ VPN Server Pritunl ของทางเว็บไซต์หรือกลุ่มเน็ตฟรี ที่ได้ออกแบบมาแล้วสำหรับระบบ debian 8 x64 ทำงานได้ดีบน Google VPS พร้อมด้วยเครื่องมือบริหารเครือข่าย OpenVPN สามารถรับเวอร์ชั่นล่าสุดได้ฟรี!
(1)IPเครื่องที่ทำระบบSSH  (2)Passwordที่กำหนดไว้
ให้แจ้งไปยังผู้ดูแลกลุ่ม เน็ตฟรี Truemove HTTP Injector + Openvpn
https://www.facebook.com/groups/310647572754641
หรือติดต่อสอบถามข้อมูลได้ที่เฟสโดยตรง
https://www.facebook.com/100003964048764

Read More

วิธีสมัคร K-Web Shopping Card ให้พร้อมใช้งานซื้อของออนไลน์

K-Web Shopping Card จะเป็นบัตร Visa เสมือน ท่านจะสามารถใช้บริการซื้อสินค้าออนไลน์กับเวปไซต์ชั้นนำได้ เหมือนกับว่าท่านมีบัตร VISA จริงๆ เลยทีเดียว โดยมีขั้นตอนที่แบ่งออกได้เป็น 4 ขั้นตอนหลักคือ

สมัคร K-cyber Banking , ขอหมายเลขบัตร K-web Shopping Card , ตรวจสอบหมายเลขบัตร K-web Shopping Card , ทำการ Verified by VISA

ต้องทำครบทั้ง 4 ขั้นตอนถึงจะสามารถสั่งซื้อสินค้าทางอินเตอร์เน็ตได้

1. สมัคร K-cyber Banking

การสมัคร K-cyber Banking สิ่งแรกที่คุณต้องมีคือ บัญชีเงินฝากออมทรัพย์ของ ธ.กสิกรไทย ถ้าไม่มีก็ต้องไปเปิดบัญชี ตอนไปเปิด ก็บอกพนักงานทางธนาคารว่า ขอสมัครใช้บริการ K-cyber Bangking มาด้วยเลย สำหรับคนที่มีบัญชีของ ธ.กสิกร อยู่แล้ว แต่ยังไม่ได้สมัครบริการ K-cyber Banking ก็ให้นำสมุดบัญชี พร้อม บัตรประชาชน ไปขอสมัครใช้บริการนะครับ หลังจากนั้นก็รอ username จากธนาคาร ธนาคารจะส่งมาให้ทาง Email นะครับ คราวนี้เราก็มาดูขั้นตอนการ ขอหมายเลขบัตร K-Web Shopping Card กันนะครับ หลังจากได้ username และ password มาแล้วก็ มาทำพร้อมๆกันเลยนะครับ

ข้อมูลเพิ่มเติม ตอนนี้ท่านสามารถสมัครขอ username และ password สำหรับ K-Web Shopping Card ผ่านทาง ATM ได้แล้วนะครับ ดูรายละเอียดได้ที่นี่

2. ขอหมายเลขบัตร K-web Shopping Card

2.1. ไปที่หน้าเว็บ ของธนาคารกสิกรไทย http://www.kasikornbank.com/ แล้ว คลิกที่ K-cyber Banking ตามภาพนะครับ

2.2. เลือกภาษาไทย แล้ว ใส่ username และ Password ที่ได้จากธนาคาร แล้วกด LOGIN เข้าสู่ระบบ

2.3. คลิกเลือกหัวข้อ K-Web Shopping Card แล้ว คลิกที่สมัครใช้บริการ

2.4. เลือกว่าจะให้ผูกกับ บัญชีธนาคารเล่มไหน (จะให้ตัดเงินจากเล่มไหน) กรณีมีบัญชีของธนาคารมากกว่า 1 เล่ม แล้วกำหนดวงเงินสูงสุดต่อเดือนที่จะใช้ผ่านบัตร K-Web Shopping Card(สูงสุดไม่เกิน 100,000 บาท)

2.5. ขั้นตอนการขอบัตรก็มีแค่นี้ละครับ รอประมาณ 1 วันหรือ ภายใน 24 ชั่วโมง ธนาคารก็จะออกหมายเลขบัตรให้ครับ

3. ตรวจสอบหมายเลขบัตร K-web Shopping Card

3.1. LOGIN เข้าสู่ระบบ K-Cyber Banking

3.2. คลิกเลือกหัวข้อ K-Web Shopping Card แล้วเลือก ดูรายละเอียดบัตร

3.3. ตรงนี้คุณก็จะได้เห็น ข้อมูลต่างๆดังนี้

หมายเลขบัตร 16 หลักของ K-web Shopping Card ที่นำไปใช้แทนหมายเลขบัตรเครดิต
ชื่อย่อบัตร เป็นชื่อที่เราตั้งเองไว้ใช้แยกบัตร กรณีมีบัตรมากกว่าหนึ่งใบ
หมายเลข cvv 3หลัก ที่ใช้สำหรับการยืนยันบัตรเวลานำไปใช้
หมายเลขบัญชีธนาคาร ที่หมายเลขบัตรใบนี้ผูกด้วย (หมายเลขบัญชีที่บัตรใบนี้ใช้ในการตัดเงิน)
วันบัตรหมดอายุ
วงเงินบัตร เป็นวงเงินที่เรากำหนดเอาไว้ในตอนแรก
ยอดวงเงินที่ใช้ไป เป็นยอดเงินที่เราใช้จ่าย ผ่านหมายเลบัตร K-Web Shopping Card
ยอดวงเงินคงเหลือ คือ ยอดคงเหลือที่เราสามารถใช้ผ่าบัตรใบนี้ได้ เช่น กำหนดวงเงินสูงสุดที่จะใช้ผ่านบัตรไว้ 100,000 บาท ใช้ผ่านหมายเลขบัตรไปแล้ว 100 บาท ก็จะเหลือวงเงินที่จะสามารถใช้ผ่านหมายเลขบัตรใบนี้ในเดือนนี้ 99,900 บาท เพราะเราใช้ผ่านหมายเลขบัตรไปแล้ว 100 บาทครับ

4. ทำการ Verified by VISA

คราวนี้มาถึงขั้นตอนการทำ Verified by VISA (จำเป็นต้องทำ) ให้เข้าไปที่หน้าเว็บของธนาคารกสิกรไทย แล้วให้ทำตามขั้นตอนดังนี้นะครับ

4.1 ให้คุณคลิกที่ "ลูกค้าบุคคล" ด้านบน

4.2 คลิกที่ "บัตรเดบิต" ที่แทบด้านบน

4.3 ให้มองที่แทบด้านขวา แล้วให้คลิกที่ "บริการ Verified by VISA"

4.4 เลื่อนลงมา ให้คลิกที่ สมัครใช้บริการ Verified by Visa แบบ Static Password (PIN)

ตอนนี้คุณจะอยู่หน้าที่ให้ คุณกรอกหมายเลขบัตร K-Web Shopping Card ของคุณ ให้คุณทำตามระบบขั้นตอนที่ธนาคารแจ้งไว้เลย ไม่มีอะไรยาก

ตอนนี้บัตรเว็บการ์ดของคุณก็สมบูรณ์แล้วครับ สามารถนำไปใช้ซื้อสินค้าตามเว็บไซต์ได้เลย

ถ้าถามว่าธนาคารอื่นมี บริการแบบนี้ไหม ตอบว่ามี ที่มีอยู่ตอนนี้ก็ ธนาคารกรุงเทพฯ ส่วนข้อแตกต่างก็คือถ้าเป็น ของธนาคารกรุงเทพฯ จะออกเป็นตัวบัตรให้เลย แต่เวลาทำต้องรอสำนักงานใหญ่ออกให้ รอประมาณ 7 วัน ครับ ส่วนของ ธนาคารกสิกรไทยไม่มีตัวบัตรให้ ต้อง LOGIN เข้าระบบเพื่อดูหมายเลขบัตรตามขั้นตอนที่ 3

แต่ขอแนะนำว่าทำของกสิกรไทยดีกว่า เพราะเวลาบัตรมีปัญหาอย่างเช่น คนอื่นรู้ หมายเลขบัตรแล้วนำไปใช้ เราก็ LOGIN แล้วอายัตบัตร แล้วทำการขอหมายเลขบัตรใหม่ ภายใน 24 ชั่วโมงเราก็จะได้หมายเลขบัตรใบใหม่แล้ว ส่วนของธนาคารกรุงเทพเราต้องไปธนาคาร เพื่อแจ้งอายัตบัตร แล้วไม่รู้ว่าต้องรอกี่วันสำหรับออกบัตรใหม่

Read More

การเปิดบัญชีธนาคารกสิกรไทยสำหรับใช้บริการ k-cyber banking

รายละเอียดบัญชี คำนวณดอกเบี้ยทุกวันโดยจ่ายดอกเบี้ย ณ เดือนมิถุนายนและธันวาคมของทุกปี ฝาก ถอน โอน ชำระค่าสินค้าและบริการ ผ่านช่องทางต่างๆ ได้แก่ K PLUS, K-Cyber, ตู้เอทีเอ็ม และธนาคารกสิกรไทยทุกสาขาใช้เป็นหลักประกันในการขอสินเชื่อได้

การเปิดบัญชี รายละเอียด เปิดบัญชีขั้นต่ำ 500 บาท
คุณสมบัติบุคคลธรรมดาอายุตั้งแต่ 15 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป
(กรณีอายุต่ำกว่า 15 ปี สามารถเปิดบัญชีได้โดยบิดา / มารดา
หรือผู้ปกครองให้ความยินยอมและมาทำรายการ) นิติบุคคล เอกสาร บุคคลธรรมดา บัตรประจำตัวประชาชนตัวจริง (Smart Card) ทะเบียนบ้านฉบับจริง (เฉพาะกรณีเป็นบัตรประจำตัวประชาชนรุ่นเก่าที่ไม่มีชิพ) สูติบัตร (กรณีบิดามารดาต้องการเปิดบัญชีให้บุตร)

ดังนั้นการจะใช้บริการ k-cyber banking ท่านต้องมี บัญชีกสิกรเงินฝากออมทรัทย์ และไม่จำเป็นต้องทำบัตร ATM ก็ได้ ก็จะได้ยกเว้นค่าธรรมเนียนรายปีและบัตรประหยัดได้อีก สำหรับผู้ที่ต้องการสมัคร k-cyber banking ก็ให้แจ้งกับเจ้าหน้าที่ธนาคาร ในวันที่เปิดบัญชีว่าต้องการขอใช้บริการดังกล่าวด้วย เจ้าหน้าที่จะดำเนินการลงทะเบียนให้ และเจ้าหน้าที่ธนาคารจะจัดส่งอีเมล์การเข้าใช้ระบบดังกล่าวให้ในวันต่อมา เราก็สามารถนำข้อมูลมาเข้าระบบของธนาคารที่เว็บไซต์ของธนาคาร
https://www.kasikornbank.com/th/

Read More

VPN (Virtual Private Network) คืออะไร มีประโยชน์อย่างไร พร้อมแนะนำแอป VPN ใช้ฟรี

หนึ่งในโปรโตคอลของระบบเน็ตเวิร์คซึ่งหลายๆคนน่าจะเคยได้ยินกัน คือ VPN (Virtual Private Network) หรือ “เครือข่ายส่วนตัวเสมือน” เป็นระบบเครือข่ายที่น่าสนใจระบบหนึ่งของระบบอินเตอร์เน็ต ซึ่งช่วยในการรับส่งข้อมูล รวมถึงสร้างความปลอดภัยในข้อมูลในระบบ VPN นี้ได้ด้วย VPN : Virtual Private Network เป็นฟังก์ชั่นหนึ่งในระบบเน็ตเวิร์ค สร้างขึ้นมาทำให้สามารถรับส่งข้อมูลได้ปลอดภัยมากขึ้น และสามารถเชื่อมตรงกับเซิร์ฟเวอร์/อุปกรณ์ที่อยู่ใน VPN เดียวกันได้สะดวกขึ้น ซึ่งมันจะทำงานโดยใช้โครงสร้างของอินเตอร์เน็ต เป็นตัวส่งผ่านข้อมูล

          แต่ที่ว่ามีความปลอดภัยก็คือ มันมีการเข้ารหัสข้อมูลทั้งหมด และจะมี Gateway เฉพาะในการส่งข้อมูลด้วย มีการ login ผู้ใช้/พาสเวิร์ดสำหรับบุคลลที่ได้รับอนุญาต คนที่ไม่เกี่ยวข้องก็จะไม่สามารถมายุ่งกับข้อมูลนี้ได้เลย และแต่ละอุปกรณ์ที่เชื่อมเข้ามาใน VPN จะมี IP เฉพาะ ทำให้การกำหนดIP ในวง VPN ทำได้สะดวกขึ้น เชื่อมต่อข้อมูลได้ง่ายมากขึ้น เหมือนกับมีเครือข่ายส่วนตัวตามชื่อนั่นเองครับ แต่ทั้งนี้ก็ต้องที VPN Server เป็นตัวกลางในการเชื่อมต่อด้วย แล้ว VPN ทำอะไรได้อีก? จากที่อธิบายข้างบน คือการทำงานหลักๆของ VPN เท่านั้นครับ

          แต่จากการทำงานหลักๆนี่แหละ ทำให้ VPN สามารถทำประโยชน์อะไรได้อีกเยอะแยะเลยละครั 1.การรับ-ส่งข้อมูลในเน็ตเวิร์ค VPN สามารถทำได้โดยมีความปลอดภัย ถึงแม้จะส่งข้อมูลนอก LAN เข้าสู่ระบบอินเตอร์เน็ตแล้วไปยังผู้ใช้ VPN ปลายทาง 2.มีความยืดหยุ่นสูงเพราะสามารถใช้ VPN ที่ใดก็ได้ และยังสามารถขยาย Bandwidth ในการใช้งานและการเข้าถึงได้ง่ายดาย 3.มีการเข้ารหัสข้อมูลก่อนส่งทุกครั้ง 4.สามารถติดต่อกันผ่านอินเตอร์เน็ตโดยเครือข่าย WAN ได้เหมือนเครือข่าย LAN มากขึ้น 5.สามารถเปลี่ยนภูมืภาคการใช้อินเตอร์เน็ตได้ โดยการเชื่อมต่อเข้าอินเตอร์เน็ตผ่าน VPN Server ภูมิภาคก็จะเปลี่ยนตามที่อยู่เซิร์ฟเวอร์ ส่วนการเชื่อมต่อ VPN ในระบบแอนดรอยด์ก็มีหลายรูปแบบครับ ทั้งต่อเข้ากับเซิร์ฟเวอร์เอง และแอปพลเคชั่นสำหรับ VPN

Read More

บริการ VPS คืออะไร และการใช้งานระบบ

ในบทความนี้จะมานำเสนอเรื่องของ พื้นที่ที่จะใช้เก็บเว็บไซต์ หรือที่เรียกกันว่า บ้านของเว็บไซต์ นั้นที่แท้จริงแล้ว มันมีกี่รูปแบบ กันแน่ เชื่อว่าหลายๆ คนที่อยู่ในวงการไอที หรือ คลุกเคล้าในวงการนี้คงจะรู้จักคำว่า “VPS” กันมาบ้าง อย่างน้อยก็ต้องเคยผ่านหูผ่านตากันมาบ้างละ แต่อาจจะยังไม่รู้แบบแน่แท้ว่าที่จริงแล้วบริการ VPS คืออะไร กันแน่ คนที่เคยได้ยิน ได้เคยเห็น อย่างเช่น ฝ่ายไอที ผู้ดูแลเว็บไซต์ หรือแม้แต่ ผู้ประกอบการที่กำลังหาข้อมูลมาเพื่อจะเปิดเว็บไซต์สักเว็บนึง คงจะต้องคุ้นหูกับคำ 4 คำต่อไปนี้อย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็น เว็บโฮสติ้ง (Web Hosting) เดดิเคทเซิร์ฟเวอร์ (Dedicated Server) โคโลเคชั่น (Co-Location) วีพีเอส (VPS – Virtual Private Server) แน่นอนเป็นที่รู้กันอยู่แล้วว่า หากคุณต้องการแค่เฉพาะเช่าพื้นที่เซิร์ฟเวอร์มาเพื่อเปิดเว็บไซต์เว็บนึงละก็จะต้องเลือก เว็บโฮสติ้ง ข้อแรก เป็นแน่แท้ เพราะมีระบบบริหารจัดการหลังบ้าน (Back Office) ที่ค่อนข้างสะดวกมาก เพราะปัจจุบันนี้พัฒนาไปไกลแล้ว แล้วบริการอีก 3 อย่างที่เหลือละ มันคืออะไรกันแน่ แล้วประโยชน์ของมันมีดียังไงกันบ้าง มาดูกันได้เลย

          สำหรับบริการ VPS เป็นบริการ ที่ย่อมาจากคำว่า Virtual Private Server มันเป็นอีกทางเลือก หนึ่งบริการเช่าเซิร์ฟเวอร์ ที่เพิ่งเข้ามามีบทบาท มากยิ่งขึ้น ในยุคหลังปี ค.ศ.2010 ที่ผ่านมา โดยลักษณะรูปแบบการเช่าเซิร์ฟเวอร์นั้นจะเหมือนกับการเช่า เดดิเคทเซิร์ฟเวอร์ ที่ได้กล่าวมาด้านบน แต่ว่า บริการ VPS นั้นจะมีความยืดหยุ่น และ หลากหลายกว่า บริการอื่นๆ ทั้ง 3 บริการ ที่ได้กล่าวมาอยู่ข้างต้น พอสมควรเลยทีเดียว หากแปลกันตรงๆ Virtual Private Server หรือตัวย่อ VPS นั้นเป็น

การสร้างเซิร์ฟเวอร์ส่วนตัวจำลอง หรือ เซิร์ฟเวอร์ส่วนตัวเสมือน (แล้วแต่จะเรียก) ขึ้นมาด้วยซอฟต์แวร์ที่ถูกออกแบบและพัฒนามาเพื่อการนี้โดยเฉพาะ ขอยกตัวอย่างชื่อ XenServer หรือ VMWare อะไรแบบนี้เป็นต้น ซึ่งมันเป็นซอฟต์แวร์ที่ใช้สำหรับการบริหารจัดการ VPS ของมันโดยเฉพาะ ซึ่งซอฟต์แวร์เหล่านี้ จะต้องติดตั้งเป็นอันดับแรกก่อนที่จะสร้างเครื่องจำลองขึ้นมา (Virtual Server) ถ้าถามว่าจำลองอย่างไร จำลองยังไง ลองดูเลย ทางผู้ให้บริการ VPS เขาจะลงทุนซื้อเครื่องเซิร์ฟเวอร์ ที่มีประสิทธิภาพสูง อาจจะเครื่องเดียว หรือ หลายๆ เครื่องก็ได้ ขึ้นอยู่กับเงินทุนของผู้ให้บริการ VPS ซึ่งเป็นเครื่องเซิร์ฟเวอร์ที่กล่าวมานี้ จะเป็นสามารถจับต้องได้จริงๆ (Physical Server)

ยกตัวอย่างว่า มีสเปคดังต่อไปนี้ (ขออนุญาตระบุแบบคร่าวๆ ไม่ได้ลงรายละเอียดสเปคเจาะลึกมาก) CPU (หน่วยประมวลผลกลาง) : 12 Cores RAM (หน่วยความจำหลัก) : 64 GB. Harddisk (พื้นที่จัดเก็บข้อมูล : 2TB (หรือ 2,048 GB) ทั้งหมดนี้จะเห็นได้ว่าใน 1 เครื่องหลัก จะสามารถแบ่งสเปคย่อยๆ ออกไปได้เป็น เซิร์ฟเวอร์ย่อย (เซิร์ฟเวอร์จำลอง) หลายเครื่องเลยที่เดียว โดยทั้งหมดควบคุมโดยซอฟต์แวร์ โดยผู้ใช้บริการหรือลูกค้า VPS ก็จะได้ใช้เซิร์ฟเวอร์ ได้ตามในสเปคที่ตัวเองต้องการ และ อยู่ในงบประมาณที่มี เรียกได้ว่าควบคุมงบประมาณได้เช่นกัน เช่น สมมุติว่าเราเพิ่งเปิดเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ ขึ้นมาใหม่ 1 เว็บ เว็บนี้เรายังไม่มั่นใจว่าจะมีคนเข้าเยี่ยมชม มีลูกค้าเข้ามาเลือกชมสินค้ามากน้อยเพียงใด ประโยชน์ของมันคือ อย่างในระยะแรก

สมมุติว่าคุณเพิ่งจะเปิดกิจการใหม่ หรือ เปิดเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ มาใหม่ เราก็สามารถที่จะเลือกซื้อในแพ็คเกจ ในระดับที่ต่ำที่สุด อย่าง CPU 1 Core + RAM 4 GB. + Hard Disk 100 GB. ไปก่อนได้ และถ้าหากวันนึงเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซของเราเติบโตมากขึ้น มีลูกค้ามากขึ้น มีการสั่งซื้อเข้ามามากขึ้น เราก็สามารถที่จะแจ้งทางผู้ให้บริการ VPS นั้นสามารถเพิ่มสเปคได้เช่นกัน อย่างเช่น เพิ่ม ฮาร์ดดิสก์ เป็น 200 GB. เพิ่มซีพียู เป็น 2 Core ได้เลยเดี๋ยวนั้นทันที โดยที่คุณไม่ต้องไปเดินห้างไอที อย่าง พันธุ์ทิพย์พลาซ่า ฟอร์จูนฯ เพื่อไปซื้ออุปกรณ์ต่างๆ อย่าง ฮาร์ดดิสก์ลูกใหม่มาเพิ่ม ซื้อแรมมาติดตั้ง หรือ ซื้อซีพียูมาเปลี่ยน เพื่ออัพเกรดสเปค ความสามารถเลย ด้านการใช้งานทั่วไป แน่นอนว่าความสามารถของมัน เหนือกว่า เว็บโฮสติ้งแน่นอน ความสามารถมันเทียบเท่า บริการอย่างโคโลเคชั่น (Co-Location) ที่คุณเอาเครื่องไปฝากวาง และดูแลเครื่องเซิร์ฟเวอร์ เครื่องนั้นแบบ 100% เลยทีเดียว คุณสามารถใช้เซิร์ฟเวอร์ VPS ที่เช่ามานี้ทำอะไรได้หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น ใช้ทำเว็บไซต์ (Web Server) ใช้ทำเซิร์ฟเวอร์รับส่งอีเมล์ (Mail Server) ทำเว็บบอร์ดกระดานสนทนาสำเร็จรูป (Webboard) ทำเซิร์ฟเวอร์ใช้สำรองข้อมูล (Backup Server) หรือผู้เช่า VPS จะไปเปิดบริการ เว็บโฮสติ้ง (Web Hosting) อีกช่วงหนึ่งต่อ ก็ยังสามารถทำได้เลยเช่นกัน

แต่มีข้อแม้ว่าจะต้องซื้อแพ็คเกจ VPS ที่มีสเปคเครื่องที่เพียงพอ นอกจากนี้แล้วอีกหนึ่งปัจจัยที่ยังมีผลให้ราคาสูงขึ้นหรือต่ำลงของการเช่า VPS นั่นก็คือเรื่องของระบบปฏิบัติการ (Operating Systems) นั่นเอง แน่นอนว่า ระบบปฏิบัติการลีนุกซ์ (Linux OS) นั้นจะมีราคาที่ถูกกว่า เพราะตัวมันเองนั้นเป็นโปรเจคโอเพ่นซอร์ส ที่ถูกพัฒนาโดยกลุ่มโปรแกรมเมอร์ที่ใจรัก และต้องการที่จะสร้างสรรค์สิ่งดีๆ เพื่อสังคม และที่สำคัญ แจกฟรี นำไปใช้ฟรีอีกด้วย แต่มันก็มีข้อเสียคือ ระบบการช่วยเหลือสนับสนุนต่างๆ อาจจะไม่ดีเท่าวินโดวส์ ที่มีทีมพัฒนา และ ดูแล เฉพาะ ถ้าหากเป็น ระบบปฏิบัติการวินโดวส์ (Windows OS) จะค่าบริการรายเดือน จะมีราคาที่สูงกว่าพอสมควร เพราะวินโดวส์ ถูกพัฒนาโดยบริษัทเอกชน อย่าง ไมโครซอฟท์ (Microsoft) ไม่ได้พัฒนาขึ้นโดยทีมผู้พัฒนาโปรแกรมอิสระ ดังนั้นเขาก็ต้องมีค่าใช้จ่าย หลายๆ อย่าง แต่สิ่งที่ผู้ใช้งานได้รับก็คือ มีทีมเซอร์วิส ทีมซัพพอร์ต ที่ดี คอยให้คำแนะนำปรึกษาในการใช้งาน

Read More